หัวขโมยแห่งบารามอส แบบว่า... - หัวขโมยแห่งบารามอส แบบว่า... นิยาย หัวขโมยแห่งบารามอส แบบว่า... : Dek-D.com - Writer

    หัวขโมยแห่งบารามอส แบบว่า...

    แบบว่าอ่านของคนนึงแล้วอยากแต่งบ้างอะค่ะ ไม่รู้ว่าดีหรือป่าว อ่านสนุกๆนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,583

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.58K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 มิ.ย. 49 / 14:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      ดวงจันทร์กลมโตส่องสว่างอย่างทำให้เห็นทุกอย่างได้ชัดเจนในค่ำคืนนี้   ยิ่งร่างสูงผมสีเงินที่ยืนอยู่ชั้นดาดฟ้าป้อมอัศวินที่เดินวนไปวนมาอย่างติดจะกังวล   ยิ่งสะดุดตากว่าอีกร่างหนึ่งที่นั่งพิงประตูหลับอยู่   ดวงหน้าเคร่งเครียดของคาโลถึงจะหาดูได้ยาก   แต่เมื่อมันเป็นเวลากว่าเที่ยงคืนเช่นนี้   เขาก็คงไม่มัวนั่งมองตามคนเดินวนไปวนมาแน่นอน   ที่จริงเวลาเช่นนี้ทั้งคู่ควรจะหลับอย่างสบายอยู่ที่เตียงภายในห้องหัวหน้าชั้นปี   แต่ด้วยประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อน   ที่คิลและคาโลต้องตื่นขึ้นมาพบความตกใจ   เมื่อสาวขี้เซาไม่ได้หลับอยู่บนเตียงนอน   มีเพียงโน้ตแผ่นเดียวเขียนไว้ว่า

       

                      มีธุระจะไม่อยู่สักอาทิตย์   ไม่ต้องห่วงแล้วจะติดต่อมา

       

                      และในวันนี้เมื่อเช้าโน้ตอีกแผ่นก็มาปรากฏอยู่บนหนังสือของคาโล  มีใจความว่า

       

                      กลับคืนนี้   ที่ดาดฟ้าป้อมอัศวิน

       

                      เพื่อนหนอเพื่อน   มันส่งข่าวมาแสนสั้น   แล้วไอ้คนเป็นห่วงอย่างหนักหนาก็ไม่ใช่ใคร   เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาลนี่เอง   พอกินข้าวเย็นเสร็จ   คาโลก็ลากคิลขึ้นมารอการกลับมาของแม่ตัวยุ่งประจำป้อมทันที   แต่ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่ปรากฏแม้เงาของคนเขียนโน้ตมาให้เห็น   จนคิลนั่งพิงประตูหลับส่วนคนเป็นห่วงก็เดินวนไปวนมาอย่างไม่รู้จะหยุดเมื่อไร   จนเลยเที่ยงคืนย่างเข้า   หนึ่งนาฬิกาของวันใหม่   เงาใหญ่ของมังกรบินก็ทาทาบผ่านตัวของพวกเขาไป   เรียกให้ทั้งคู่ต้องเงยหน้าขึ้นดู   มังกรบินตัวหนึ่งกำลังบินเข้าใกล้ป้อมอัศวินเข้ามาทุกที   และไม่นานร่างๆหนึ่งก็โดดลงมาจากหลังมังกร   ปล่อยให้มังกรบินห่างเอดินเบิกไปเรื่อยๆ   ร่างนั้นตกลงมาเรื่อยๆ   คิลเห็นว่าร่างของคาโลกำลังขวางการลงของร่างนั้น   จึงกระชากร่างเพื่อนให้หลบพ้นไป

                      เมื่อร่างนั้นนั้นลงถึงพื้น   ทั้งคู่ก็ได้เห็นว่าคือเจ้าตัวยุ่งที่หายไปไม่มีบอกกล่าว   และเป็นการลงที่สวยงาม(แบบว่าอย่าได้ลอกเลียนแบบเด็ดขาด   เพราะการตกจากที่สูงอาจจะไม่รอดได้นะ)  แต่เรียกอารมโกรธของใครบางคนได้อย่างดี

                      เฟริน   ทำไมโดดลงมาแบบนั้น   เดี๋ยวก็บาดเจ็บหรอก

                      ฉันก็ไม่ได้เป็นไรนี่คาโล   เอาน่ากลับมาแล้วนะ

                      แล้วนายไปมา   จะไปทำไมไม่บอกก่อน

                      โทษที   ธุระด่วนจริงๆเลยไม่ทันได้บอกน่ะ

                      ร่างสูงเข้าประชิดตัวทันที   แม้จะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปธุระอะไร   แต่เมื่อจะถามให้ได้ความดวงตาของเฟรินที่หรี่ปรือน้อยๆก็ปิดสนิทลง   พร้อมร่างบางที่ทรุดหวบทันที   ดีแต่ว่าคาโลกำลังเอื้อมมือจะคว้าอยู่พอดีจึงรับไว้ได้ทัน   ก่อนที่ร่างนั้นจะฟาดพื้นลงไป

                      เฮ้ย   เฟรินเป็นอะไรคาโล

                      ไม่รู้

                      เออจริง   ก็อยู่ด้วยกันฉันไม่รู้แกจะรู้ได้ไง

                      สายตาจากดวงตาสีฟ้าจ้องมองไอคนถามเองตอบเองเสร็จ   ประมาณว่า   แล้วแกจะเ สือกถามทำไมวะ   แล้วคาโลก็ช้อนร่างบางพากลับห้องไป   คิลรู้ตัวดีว่าตัวเองช่วยอะไรไม่ได้จึงกลับไปนอน   ทิ้งให้คาโลพยาบาลเฟรินอยู่อีกห้องหนึ่ง   ผ่านไปไม่นานเฟรินก็ฟื้นลืมตามองเห็นคาโลเป็นคนแรก   ส่วนคาโลพอเห็นว่าหญิงที่ตนรักฟื้นแล้วก็ยิ้มออกทันที   ร่างบางพยายามพยุงตัวเองขึ้น   ส่งยิ้มอ่อนๆไปให้อีกฝ่ายที่เข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง

                      นายหายไปไหนมา   รู้ไหมว่าเป็นห่วงแค่ไหน

                      ขอโทษทีคาโล   พอดีถูกเรียกด่วนน่ะไม่มีอะไรหรอก

                      แม้จะได้คำตอบที่ไม่ครบถ้วนตามที่ต้องการ   แต่ความต้องการทางใจก็มีมากกว่าจึงก้มหน้าลงไปใกล้ใบ้หน้าอีกฝ่าย   ที่เริ่มส่งสีแดงจางๆขึ้นมาเรื่อยๆ   แต่แค่นั้นมันก็ยวนใจเสียจริง   จึงโน้มลงหาริมฝีปากบางประกบกับปากของตนเองควานหาความหวานที่คิดว่าจะมีมากมาย   ครั้งแรกเฟรินก็เริ่มดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขน   แต่ก็ไม่ทำให้คาโลถอนริมฝีปากไปได้   กลับบดลงแนบชิดกว่าเดิม   ปลายลิ้นสอดเข้ามาควานหาความหวาน   ปลายลิ้นกระหวัดไปทั่วอย่างเรียกร้อง   จนร่างบางอ่อนแรงยอมรับสัมผัสนั้นไว้    เนิ่นนานจนสติเริ่มรางเลือนไป   เฟรินเผลอตอบโต้ทำให้ร่างสูงยิ่งได้ใจ   มือใหญ่รองรับศีรษะได้รูปอีกฝ่ายไว้   ส่วนอีกข้างก็รองรับร่างบาง   กว่าที่เฟรินจะรู้ตัวอีกทีแผนหลังก็แนบอยู่กับที่นอนนุ่มเสียแล้ว   ริมฝีปากถูกถอนออกแต่มันกลับไปซุกไซ้ซอกคอระหง   สองมือเริ่มอยู่ไม่สุขมันเลื่อนลูบไปตามเรือนร่างของอีกฝ่ายอย่างซุกซน   และโดยไม่รู้ตัวกระดุดเสื้อถูกปลดจนหมดแผง   เผยให้เห็นผิวกายภายใต้แสงจันทร์ที่ช่างยั่วยวนใจ   ริมฝีปากรุ่มร้อนเลื่อนลงมาชิดขอบชั้นในตัวจิ๋ว   แค่นั้นสติที่กระเจิดกระเจิงไปแล้วของเฟรินก็กลับมารวมตัวอีกครั้ง   มือบางดันบ่าหนาของอีกฝ่ายออก   แต่เสมือนยันกำแพงที่ไม่สะทกสะท้านกับการดันของอีกฝ่าย

                      คาโล   อย่า   หยุดได้แล้วพอแล้ว

                      ไม่มีเสียงตอบแต่มือร้อนก็กอบกุมทรวงอกของอีกฝ่าย   แทนชั้นในที่เลื่อนหลุดออกไป   ปลายนิ้วไล้ส่วนที่ไวต่อการสัมผัส   เท่านั้นแรงที่มีเหลือน้อยนิดก็ดูเหมือนจะเหือดหายไป   มีเพียงริมฝีปากที่ยังคงร้องห้ามอยู่เป็นระยะ   คาโลจึงต้องปิดปากนั้นเสียด้วยปากของเขาอีกครั้ง   แต่มือของเขาก็ยังไม่หยุดยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างคนชำนาญ   อย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนที่ถูกพูดถึงว่าเป็นนักรักชั้นอนุบาล   ปลายลิ้นและริมฝีปากร้อนครอบครองเรือนร่างนั้น   ฝ่ามือร้อนสัมผัสเรือนร่างบาง   ปลุกเลือดในกายให้ร้อนระอุ   เฟรินไม่อาจห้ามได้อีกต่อไป   เวลาผ่านไปนานไฟที่ถูกจุดโดยคนที่ไม่คิดว่าจะทำได้   กำลังโหมตัวอย่างแรงตามความต้องการของคนจุด   เสียงหอบผสานไปกับเสียงคราง   ผิดร้อนเสียดสีแบบที่เรียกว่ายากที่ใครจะหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้  และไม่มีใครอยากจะหยุดจน

                      โครม!!!

                      พวกนายเกรงใจกันบ้างดิ   ฉันนอนอยู่ห้องข้างๆนะ   แล้วนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย   ฉันไม่ใช่หัวหลักหัวตอนะโว้ ย

      สองร่างผละจากกันทันทีที่ประตูกั้นห้องถูกผลักเข้ามา   พร้อมร่างนักฆ่าที่เข้ามาด้วยอาการหัวเสียเป็นที่สุด   เพราะเจ้าตัวต้องนอนฟัง 2 คู่รักอยู่อีกห้องหนึ่ง   ทำให้เขาคิดถึงเจ้าหญิงคนงามคนรักของเขาเป็นที่สุด   จนทนไม่ได้ต้องมาขัดจังหวะคนทั้งคู่   ส่วนเจ้าชายคนเริ่มก็ได้แต่คิดว่า   ตูอดอีกแล้ว   เฮ้อทำไมต้องมีมารมาผจญด้วยนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×